นิวคาสเซิ่ล เจ็บเกินครึ่ง ฟูแล่ม จ้องเฮ พรีเมียร์ลีก

                แม้ชื่อชั้นจะต่างกันทว่าเจ้าบ้าน นิวคาสเซิ่ล ต้องเผชิญปัญหาแข้งเดี้ยงไปกว่าครึ่งจนฟอร์มรูดอย่างน่าตกใจ ขณะที่ ฟูแล่ม กำลังมาด้วยความมั่นใจจากการคว้าชัย 2 นัดล่าสุดที่ถลุงคู่แข่งไปมากถึง 10 ลูก เตรียมฟาดแข้งกันในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคมนี้ เวลา 22.00 น.

“สาลิกาดง” ของ เอ็ดดี้ ฮาว กำลังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ หลังแพ้มา 3 นัดติดต่อกันในทุกรายการ โดยเกมลีกนัดที่ผ่านมา คือการบุกพ่าย สเปอร์ส 1-4 ทำให้มี 26 แต้ม จาก 16 นัด รั้งอันดับ 7 ของตาราง ก่อนที่ล่าสุดจะเปิดบ้านปราชัยให้กับ เอซี มิลาน 1-2 ทำให้ตกรอบแบ่งกลุ่ม ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับสภาพทีมในเกมนี้ ก็มีปัญหาในการจัดทัพอย่างหนัก เมื่อจะไม่สามารถใช้งานแข้งที่บาดเจ็บอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น นิค โป๊ป, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์, เอลเลียต แอนเดอร์สัน, เจค็อบ เมอร์ฟี่, สเวน บ็อตแมน, โจ วิลล็อค และ ฮาเวียร์ มานกีโญ่ รวมทั้ง คีแรน ทริปเปียร์ ที่ติดโทษแบน และ ซานโดร โตนาลี่ ที่โดนแบนยาว นอกจากนั้นยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ แอนโธนี่ กอร์ดอน ด้วยอีกราย

นั่นอาจทำให้กุนซือเจ้าถิ่นต้องเลือกใช้ระบบ 4-3-3 แนวรับ 4 คน ประกอบด้วย วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, จามาล ลาสเซลส์, ฟาเบียน แชร์ และ แดน เบิร์น ส่วนแผงมิดฟิลด์ส่ง ฌอน ลองสตาฟฟ์, บรูโน่ กิมาไรส์ และ โชลินตอน คอยเดินเกม ขณะที่แนวรุกใช้ มิเกล อัลมิรอน, คัลลั่ม วิลสัน และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค สร้างสรรค์โอกาสในแดนหน้า

ทางด้าน “เจ้าสัวน้อย” ของนายใหญ่ มาร์โก้ ซิลวา กำลังโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงสุดๆ เมื่อเปิดบ้านไล่ถล่ม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์เดียวกันถึง 5-0 ใน 2 นัดที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้มี 21 แต้ม จาก 16 นัด รั้งอันดับ 10 ของตาราง

ส่วนความพร้อมในเกมนี้ ก็มีแค่ อิสซ่า ดิย็อ กับ อดาม่า ตราโอเร่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เท่านั้น ขณะที่ วิลเลี่ยน ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิต ส่วนแข้งตัวหลักรายอื่นๆ ต่างฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงทำศึกกันอย่างพร้อมเพรียง

ในระบบ 4-2-3-1 แนวรับใช้ ทิโมธี กาสตาญ, คาลวิน บาสซีย์, โทซิน อดาราบิโอโย่ และ แอนโทนี่ โรบินสัน ส่วนคู่มิดฟิลด์ใช้ ทอม แคร์นี่ย์ คอยคุมเกมร่วมกับ ชูเอา ปาลินญ่า ขณะที่แนวรุกส่ง อเล็กซ์ อิโวบี้, อันเดรียส เปเรย์ร่า และ วิลเลี่ยน ลงปั้นเกมให้ ราอูล ฮิเมเนซ ไล่ล่าตาข่าย